๒๕๕๑-๐๙-๒๒

To Live Is To Die ...


ตอนเด็กๆข้าพเจ้ารัก"มนุษย์แม่"มาก..."มนุษย์แม่"ไม่อยู่ก็ร้องไห้.."มนุษย์แม่"หายไปก็ร้องหา .."มนุษย์แม่"มารับที่โรงเรียนช้าก็น้ำตาคลอ..

พอเป็นวัยรุ่นสิ่งสนุกสนานและน่าเรียนรู้ในชีวิตทำให้ข้าพเจ้าสนใจ"มนุษย์แม่"น้อยลง ไปสนใจ"มนุษย์เมีย"มากกว่า..วันไหน"มนุษย์แม่"ไม่อยู่บ้านยิ่งร่าเริงร้องลั้นลาๆ.. แต่ถ้าทะเลาะกับ"มนุษย์เมีย"มากลับน้ำตาซึม ...

ตอนนี้ข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ความรู้สึกรัก"มนุษย์แม่"กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อาจจะพอเดาได้ว่าเริ่มเข้าข่ายกลุ่มอาการ "ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตเอ๊ฟเฟ็ค" คือปรากฏการณ์ที่ได้เรียนรู้แล้วว่า ยิ่งเวลาผ่านไป โอกาสที่เราจะได้อยู่ด้วยกันบนโลกก็น้อยลงไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เราหายใจเพื่อมีชีวิต นั่นคือนับถอยหลังชีวิตของเราลดน้อยลงไปเรื่อยๆ....อย่างที่ฝรั่งเขามีสำนวนว่า "TO LIVE IS TO DIE".. ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่า"มนุษย์แม่"จะอยู่กับข้าพเจ้าอีกนานเท่าไหร่..

"มนุษย์แม่"มักมีความคิดที่เราเข้าไม่ถึง .. หรือลืมที่จะเข้าถึง เป็นความสามารถพิเศษที่มีเพียง"มนุษย์แม่"เท่านั้นจะทำได้เสมอๆ..
วันก่อนตอนเย็นๆข้าพเจ้ารับโทรศัพท์จากน้าสาว นึกแปลกใจเนื่องด้วยปกติไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ .. แต่แล้วปริศนาก็กระจ่าง น้าสาวโทรมาเพียงแค่บอกข้าพเจ้าสั้นๆว่า... "แม่เราเขาให้โทรมาบอกว่า เขาลืมโทรศัพท์ไว้ที่ทำงาน ถ้ามีเรื่องอะไรให้โทรเข้าเครื่องน้านะ"...... ทั้งๆที่เหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงข้าพเจ้าก็จะกลับบ้าน แต่"มนุษย์แม่"ก็ยังอุตส่าห์คิดถึงและเป็นห่วงข้าพเจ้าหากมีเหตุอะไรไม่ปลอดภัย.... เป็นความคิดที่หากเป็นตัวข้าพเจ้าเองคงไม่ทำแบบนั้น ถ้าลืมโทรศัพท์ก็คงจะไม่อุตส่าห์ถ่อไปฝากข้อความกับใคร ก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติ...

วันเหยุดคือวันพักผ่อน..และเมื่อถึงเสาร์อาทิตย์ ข้าพเจ้าก็มักหยุดพักอยู่กับบ้านปวารณาตนเป็นอัครสาวกของตัวขี้เกียจ.. ไม่ทำอะไรให้เปลืองแรงทั้งสิ้น กว่าจะตื่นมาก็บ่ายๆ ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังหิวและดูที่โต๊ะอาหารว่ามีอะไรบ้าง เสียง"มนุษย์แม่"แว่วๆมาข้างหลังบอกว่า "มีแต่ไก่ย่างที่ซื้อมาเมื่อกี้นี้ กินไปก่อน.. ถ้าถ้าจะกินก๋วยเตี๋ยวหลอดก็รอแป๊ปนึง แม่ยังไม่ว่างทำ กำลังทำงานอยู่".....

ภาพแม่กำลังซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ เตรียมของขาย เย็บกางเกงที่ขาดให้ ลอยเข้ามาในหัวข้าพเจ้า ... แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปริมาณงานที่ข้าพเจ้าทำได้หมดในวันเดียว....
ข้าพเจ้าตระหนักเดี๋ยวนั้นเองว่า ขณะที่ผู้คนมากมายบนโลกหยุดพักในวันหยุด.. "มนุษย์แม่"ยังคงทำงานหนักอย่างไม่มีวันหยุดพัก..โดยเฉพาะงานที่ท่านรักจะทำมาร่วมเกือบ 30 ปี .. "งานดูแลลูกๆ"....
.......
ข้าพเจ้ากินไก่ย่างไป พลางเสียบหูฟังเปิดเพลง "To Live Is To Die" ของคณะ Metallica ฟังอีกครั้ง ...
แปลกใจเหลือเกินว่า ไฉนเพลง Speed Metal สุดโหดเหี้ยมรุนแรงดุดันก้าวร้าว... จึงทำให้ข้าพเจ้าน้ำตาคลอ.....

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนมีสถานะเป็นมนุษย์ลูกก็มีแม่ที่เรารักกว่าใครในโลก

ตอนมีสถานะเป็นมนุษย์เมียก็มีแม่ที่เป็นที่พักพิงหัวใจที่แสบอบอุ่นทุกเวลานาทีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตก็ตาม

เมื่อมีสถานะเป็นมนุษย์แม่ รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของแม่ของเรา