.. คิดถึง "น้องหมูน้ำ" มาหลายเดือนแล้ว...
ผมรู้จักน้องหมูน้ำเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว น้องหมูน้ำเป็นเด็กสาวม.ปลายที่ทั้งน่ารัก เก่ง และมีความรับผิดชอบสูง ผ่านงานโฆษณามาหลายอยู่ เล่นละครมาบ้าง ร้องเพลงก็ใช้ได้ ช่วงที่ได้ร่วมงานกับเธอ ทำให้แสงอาทิตย์ในแต่ละวันที่ส่องโลกของผมมีสีสันสวยงาม รวมถึงคนรอบๆข้างเธอทั้งหลายก็มีความสุขไปด้วย น่าเสียดายนักที่เรามีโอกาสร่วมงานกันจนถึงแค่ต้นปีนี้ หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้เจอกันอีกเลย .. เธอเป็นมนุษย์พันธุ์ที่ผมอยากได้เป็นน้องสาวยิ่งนัก
เมื่อวานก่อนไม่ค่อยสบาย นอนน้อย มีนัดงานแต่เช้า พอตกเย็นก็เลยเบลอๆวูบอยากนอนผสมเป็นลม แถมยังหิวจนหูอื้อ ก่อนกลับบ้านเลยไปหาอาหารว่างที่คาร์ฟูสักหน่อย... ขณะที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อนสายตาเบลอๆก็บังเอิญไปป๊ะเท่งป๊ะกับ "น้องหมูน้ำ" และเหล่าแฟนคลับ ก็เลยได้ทักทาย เอารอยยิ้มมาแลกกันอยู่หลายนาที ได้ความว่าเธอเพิ่งไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยมา ส่วนงานเพลงคงยังไม่มีวี่แวว เพราะช่วงนี้ต้องไปเล่นละครก่อน เธอถามไถ่ถึงพี่ๆทีมงานคนอื่นเล็กน้อย ก่อนจะฝากว่าเดี๋ยวจะเอาขนมไปเยี่ยมทุกคน .....
น่าแปลกนะครับ หลังจากคุยกับเธอแค่ไม่กี่นาที ไอ้สมองและหัวใจหมดแรงของผมก็พลันสดชื่นขึ้น ผมเชื่อแล้วว่า ไอ้พลังความรู้สึกดีๆที่คนเรามีนั้น มันส่งผ่านและมอบให้แก่กันได้จริง ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที คิดๆไปแล้วก็คงจะดี ถ้าโลกเราจะเต็มไปด้วยไอ้พลังรู้สึกดีแบบนี้ลอยอยู่ทั่วๆไป ทั้งโลกทั้งคนคงจะมีความสุขมากขึ้นเยอะ ..
รอยยิ้มกับความห่วงใยมีคุณสมบัติพิเศษกว่าอย่างอื่นครับ นั่นคือถ้าเอามาแลกเปลี่ยนกันเมื่อไหร่ ปริมาณมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แตกตัวว่องไวเหมือน ตัวเกรมลินโดนน้ำ ....ยิ่งโดยเฉพาะถ้าเป็นมาจากคนที่เรารู้สึกดีด้วยแล้ว พลังนั้นก็เหมือนจะเห็นผลทันตาและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหลายเท่า
เช่นนั้นแล้ว พวกเรามาทำตัว ให้เป็นคนน่ารักสำหรับผู้อื่นกันดีกว่า .. เพื่อว่าใครมาคุยกันเราเขาจะได้รับไวรัสความรู้สึกดีๆเขาไปในตัว ไวรัสแบบนี้ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวไม่ไล่จับหรอกครับ...ผมตั้งชื่อเจ้าไวรัสชนิดนี้ว่า "ไวรัสหมูน้ำ" แล้วกัน อย่างน้อยถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอมีรอยยิ้มบ้างก็ถือว่าคุณได้รับไวรัสหมูน้ำแล้ว ... อย่าลืมไปแพร่พันธุ์ต่อด้วยนะครับ